ทีมที่ทำผลงานอันยอดเยี่ยมในศึก EPL 2020 โควตาบอลฟุตบอลยุโรป และทีมที่ไม่ได้ไปต่อในฤดูกาลหน้า
ผลสรุป EPL 2020 30 ปีที่รอคอย ของเหล่าเดอะค็อป
ผลสรุป EPL 2020 ถือเป็นฤดูกาลที่น่าจดจำอยู่ไม่น้อย สำหรับหลายๆ ทีมในซีซั่น 2019/2020 นี้ นับว่าเป็นปีที่เหล่าเดอะค็อป ลืมไม่ลง และคงไม่ลืมอย่างแน่นอน
เพราะคือปีแห่งการปลดแอก และสิ้นสุดการรอคอยแชมป์พรีเมีย์ลีก ของ ลิเวอร์พูล นานกว่า 30 ปี และคว้าแชมป์ลีกสูงสุด เป็นสมัยที่ 19 แล้ว ด้วยการเก็บแต้ม 99 คะแนน นำแชมป์เก่าอย่างแมนฯซิตี้ ไกลลิบถึง 18 คะแนน
ซึ่งทัพหงส์แดง ภายใต้การนำทัพของเจอร์เก้น คล็อปป์ สามารถเป็นทำผลงานได้ดีตั้งแต่ต้นซีซั่น และโกยแต้มแบบต่อเนื่อง และจบด้วยแชมป์แบบม้วนเดียวจบ เป็นการถอนแค้นจากทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าได้สำเร็จ หลังโดนซิตี้ปาดหน้าคว้าแชมป์ไปแบบเจ็บแสบ เมื่อซีซั่นที่แล้ว เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น
การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกของแข้งลิเวอร์พูลชุดนี้นั้น ได้ทำสถิติไว้มากมาย ทั้งเป็นทีมที่การันตีแชมป์ลีกได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟรีเมียร์ลีก ตั้งแต่เกมที่ 31 ของซีซั่น โดนยังเหลือเกมให้ลงเล่น 7 นัด และยังได้ทุบสถิติเดิมของคู่แข่งตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำทัพของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ได้ทำเอาไว้เมื่อฤดูกาล 2000/2001 ซึ่งทีมชุดนั้นของเฟอร์กี้ ได้คว้าแชมป์ตั้งแต่นัดที่ 33 ของฤดูกาล โดยที่ยังเหลือเกมให้ลงเล่นอีก 5 นัด
ผลสรุป EPL 2020 การชิงตั๋วไป UCL และ UEL ที่ลุ้นกันยันนัดสุดท้าย
ในส่วนของทีมที่ตีตั๋วไปเล่นในรายการยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีก ได้ ในซีซั่น 2020/2021 ก็ได้แก่ รองแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่ต้องลุ้นกันยันนัดสุดท้ายของฤดูกาล ด้วยการบุกเอาชนะจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่โชว์ฟอร์มได้ดีเกินคาด ยึดตำแหน่งรองจ่าฝูงมาหลายเดือน แต่ช่วงหลังรีสตาร์ทเกมพรีเมียร์ลีก ก็ฟอร์มแผ่วไปแบบดื้อๆ และโดนปีศาจแดง บุกมาตีตั๋วไป UCL ในเกมสุดท้ายของซีซั่นคารังไป 2-0 จนหลุดจากท็อปโฟร์ในที่สุด ส่วนอีกทีมนั้น ได้แก่ทีมอันดับ 4 ” สิงห์บลู ” เชลซี ของแฟรง แลมพาร์ด ก็คือทีมสุดท้าย ที่ได้สิทธิเข้าไปเล่นในฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ ในฤดูกาลหน้า
ทางด้านเลสเตอร์ หลังจากที่ต้องผิดหวัง และอดไปเล่นในแชมป์เปี้ยนลีก หลังเปิดบ้านแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบเจ็บปวดคารังนั้น ก็ต้องร่วงไปอยู่ที่อันดับ 5 ได้สิทธิลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า ยูโรปาลีก ในทันที ผีเสริมหลังบ้าน
ส่วนทัพไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ภายใต้การนำทัพของโชเซ่ มูรินโญ่ ต้องลุ้นกันหนักในนัดสุดท้ายเช่นกัน หลังทำได้เพียงแค่เสมอกับ คริสตัล พาเลซไป 1-1 แต่ดวงยังดี เพราะวูลฟ์แฮมป์ตัน ก็ไม่สามารถเก็บแต้มได้ในเกมเจอเชลซี ทำให้สเปอร์เก็บแต้มได้เท่ากับวูล์ฟส์ที่ 59 คะแนน แต่ผลต่างประตูได้เสียของไก่เดือยทองดีกว่า ส่งผลให้แซงวูล์ฟส์ ขึ้นไปอยู่อันดับ 6 ได้สิทธิไปเล่น ยูโรปา ลีก รอบคัดเลือกรอบสอง ในซีซั่นถัดไป
ส่วนทัพ ” ปืนใหญ่ ” อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของมิเกล อาร์เตต้า ยังคงมีลุ้นตีตั๋วใบสุดท้าย ไปเล่นในฟุตบอลถ้วยเล็กในฤดูกาลหน้า โดยต้องคว้าแชมป์ FA Cup ให้ได้เท่านั้น
และ วูลฟ์แฮมป์ตัน ก็ต้องลุ้นให้เชลซี เอาชนะอาร์เซน่อลให้ได้ในเกมนัดชิง FA Cup เช่นกัน เพื่อการันตีตั๋วยูโรปา ลีก แต่ทางวูล์ฟส์เอง ก็ยังมีลุ้นโควตาแชมเปี้ยน ลีกอยู่ หากพวกเขา สามารถคว้าแชมป์ยูโรปา ลีกได้สำเร็จ
ติตตามผลบอลได้ที่ >>> Sportvariety
สามทีมอำลาพรีเมียร์ และทีมน้องใหม่ แต่หน้าเก่าจากแชมป์เปี้ยนชิป
ในส่วนของทีมที่ต้องอำลาพรีเมียร์ ลีกไป ได้แก่ วัตฟอร์ด , นอริช ซิตี้ และบอร์นมัธ ซึ่งนับว่าเป็นการตกชั้นครั้งแรก หลังจากอยู่โบยบินในพรีเมียร์ลีกมานาน 5 ซีซั่นด้วยกัน
และทีมน้องใหม่ ในฤดูกาลหน้า ได้แก่ทีมน้องใหม่ แต่หน้าเก่า ” ยูงทอง ” ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นการคัมแบ็ตสู่ลีกสูงสุด ในรอบหลาย 10 ปี ด้วยการคว้าแชป์ เดอะแชมป์เปี้ยนชิพ มาได้ และทีมมวยโลก เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมรองแชมป์ ซึ่งได้สิทธิเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกทันที
และอีกสี่ทีม ที่ต้องมาลุ้นต่อในรอบเพลย์ออฟชิงตั๋วใบสุดท้าย สู่ลีกสูงสุด ได้แก่ ฟูแล่ม , เบรนท์ฟอร์ด , คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ และ สวอนซี ซิตี้
ดาวยิงสูงสุด ประจำฤดูกาล 2019/2020
รางวัลดาวซัลโวสูงสุด ประจำฤดูกาล 2019/2020 ตกเป็นของ เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าจอมเก๋าของเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำไปทั้งสิ้น 23 ประตู ทำสถิติเป็นนักเตะที่อายุมากที่สุดที่คว้าดาวซัลโวได้ ด้วยวัย 33 ปี แซงหน้าเจ้าของสถิติเดิมอย่างดิดิเยร์ ดร็อกบา ที่เคยที่ได้เมื่อฤดูกาล 2009/2010 ด้วยอายุ 32 ปี
ท็อปแอสซิสต์ ประจำฤดูกาล 2019/2020
คงไม่ใช่ใครที่ไหน ซึ่งเจ้าของรางวัลท็อปแอสซิสต์ประจำฤดูกาลนี้ ตกเป็นของ เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์คนสำคัญของแมนฯ ซิตี้ ที่ถวายพานให้เพื่อนไปทั้งหมด 20 ครั้ง ซึ่งเทียบเท่ากับที่ยอดตำนานอย่าง เธียร์รี่ อองรี ได้ทำไว้เมื่อฤดูกาล 2020/2003
ส่วนอันดับ 2 และ 3 ตกเป็นของกองหลังจอมบุกจากค่ายหงส์แดง อย่างเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำไป 13 แอสซิสต์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ทำไป 12 แอสซิสต์
ข่าวบอลเพิ่มเติม >>> @sportvariety