อยู่แมนยูต้องอดทน! ดราม่าเซร์คิโอ โรเมโร่
จะว่าไปเรื่องราวของ เซร์คิโอ โรเมโร่ ผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และมือหนึ่งทีมชาติอาเจนติน่า นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเหมือนกันนะครับ คิดดูว่า ถ้าเราอดทนทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยปฏิเสธงานที่หัวหน้ามอบหมายให้ ไม่เคยบ่น และที่สำคัญทุกครั้งที่ได้รับมอบหมายงาน เราไม่เคยทำพลาดเลยด้วยซ้ำ แต่กลับกลายเป็นว่า หัวหน้ามองว่าคนอื่นดีกว่าเรา และให้คุณค่าคนอื่นมากกว่าเรา เป็นใครก็ท้อใจนะครับ
.
แต่ไม่ใช่กับ โรเมโร่ เขาอยู่ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฐานะมือสองของทีมตั้งแต่ปี 2015 โดยหวังว่าสักวันหนึ่งจะพัฒนาฟอร์มการเล่นเพื่อขึ้นไปเป็นมือหนึ่งของสโมสรให้ได้ แต่จนแล้วจนรอด เขาก็สอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริงได้อยู่บ้าง แต่จะเน้นไปที่การได้ลงเล่นในฟุตบอลถ้วยเป็นหลัก ทั้ง ลีกคัพ เอฟเอคัพ และถ้วยยุโรป
.
ว่ากันว่าด้วยฝีมือระดับเขาสามารถเป็นมือหนึ่งของทีมใดก็ได้ในโลกนี้ แต่ไม่ใช่ที่สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคราะห์ซ้ำกรรมชัดวาสนาไม่ดีพอ ยิ่งฤดูกาลนี้ เขาดันตกไปเป็นมือสี่ของทีม โดยแมนยู มีทั้ง ดาวิด เดเคอา ดีน เฮนเดอร์สัน และ ลี แกรนท์ โดยที่เขาต้องไปแยกซ้อมในบรรยากาศที่แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ยังได้เจอเพื่อนในทีมชุดใหญ่อยู่ทุกวัน
.
นับว่าโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ค่อนข้างจะใจร้ายและไม่รู้จงเกลียดจงชังอะไรกับโรเมโร่มากนัก ดูอย่างปีที่แล้ว เขามีโอกาสได้ลงเล่นในบอลถ้วยอยู่ทุกนัด นั่นหมายถึง เราสามารถคาดการณ์ได้ว่า เราจะได้ลงในบอลถ้วยทุกเกม แต่พอถึงรอบตัดเชือกทั้งเอฟ เอ คัพ และ ยูโรป้าลีก โซลชากลับดร็อปโรเมโร่ และส่ง เด เคอา ลงตัวจริง ก่อนที่จะตกรอบทั้งสองถ้วยทันที
.
มันโคตรน่าน้อยใจ โรเมโร่ เป็นคนช่วยทีมผ่านเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือกได้ถึง 4 ครั้ง เลยนะครับ และสุดท้ายเขากลับไม่ได้รับเกียรติจากบอสมากพอ นี่ยังไม่นับรวมถึงเมื่อตอนต้นฤดูกาล โรเมโร่ มีโอกาสจะได้ย้ายไปอยู่เอฟเวอร์ตัน เพราะตอนนั้น อันเชล็อตติต้องการนายประตูอีกสักคน เพื่อให้เกิดการแข่งขันในตำแหน่งนายทวาร แต่สุดท้าย แมนยูไม่ขาย เพราะว่าตัวเลขค่าตัวที่เอฟเวอร์ตันเสนอมาน้อยกว่าที่แมนยูต้องการ
.
คนนอกมองดูสถานการณ์ของโรเมโร่ ยังรู้สึกหดหู่เลย คุณคิดว่าเจ้าของจะเซ็ง สิ้นหวัง และเบื่อมากแค่ไหนกัน แต่ก็ยังดีที่ปีหน้าช่วงซัมเมอร์ โรเมโร่ น่าจะได้ย้ายออกจากแมนยูแน่นอน เพราะสัญญาจะหมดลงในซัมเมอร์ปีหน้านั่นเอง
.
สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องของโรเมโร่ก็คือ จงพยายามทำหน้าที่ของตัวเอง มันมีอยู่แล้วที่เวลาทำงาน แล้วเรารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับเกียรติ ไม่ได้เป็นลูกร้กของใคร เราก็แค่ก้มหน้าก้มตาทำในสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุด คนในแผนก ในฝ่ายเราอาจไม่เห็น แต่เชื่อเถอะว่ามันมีคนเห็นความมุ่งมั่นของคุณอย่างแน่นอน ขอแค่เชื่อว่าสิ่งว่าสิ่งที่เราทำนั้นมันเป็นประโยชน์ต่อที่ๆ เราอยู่แล้วกัน