" "

กระแสแรง!! เป๊บคล็อปป์ หนุนกฎเปลี่ยนตัว 5 คน

เริ่มมีกระแสเรียกร้องให้พรีเมียร์ลีกสามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นระหว่างเกมการแข่งขันจาก 3 คน เป็น 5 คน อีกครั้งหลังจากที่แมทช์สุดมันเมื่อคืนวันอาทิตย์ คู่ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล มีนักเตะอย่าง เทรนต์ อเล็กซ์ ซานเดอร์อาร์โนลด์บาดเจ็บ

พรีเมียร์ลีก ย้อนกลับไปใช้กฎการเปลี่ยนตัว 3 คนเหมือนช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด ทั้งๆ ที่ตอนนี้ลีกอื่น ๆ ยังคงใช้กฎการเปลี่ยนตัว 5 คนเช่นเดิมเหมือนช่วงที่ผ่านมา เช่นเดียวกับรายการระดับทวีป ซึ่งโปรแกรมการแข่งขันของพรีเมียร์ลีกนั้นเป็นโปรแกรมที่ค่อนข้างโหด ทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเยอร์เก้นคล็อปป์ของลิเวอร์พูลเกิดอาการหัวเสียกับโปรแกรมถี่ยิบดังกล่าว

เราได้คุยกันถึงเรื่องการเปลี่ยนตัวสำรองได้ 5 คน ถ้ามีคนอยากยื่นไมคต์มาให้เราพูด ดังนั้นเราก็สามารถออกความเห็นของเราได้ เมื่อนักเตะอังกฤษและแบ็คขวาทีมชาติ อย่าง เทรนต์ อเล็กซ์ ซานเดอร์อาร์โนลด์ ได้รับบาดเจ็บ”  เป๊ปเผยกับสื่อฟุตบอลชื่อดัง

 เป๊ปยังบอกต่ออีกว่ามันยังมีนักเตะอีกหลาย ๆ คนในอีกหลาย ๆ กรณี ทั่วทั้งโลกการเปลี่ยนตัวสำรองได้ 5 คนถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่กับที่นี่มันตรงกันข้ามโดนสิ้นเชิง เราพูดเรื่องนี้มาตั้งหลายครั้งแล้ว ที่นี่เราเชื่อว่าเราพิเศษกว่าที่อื่น ๆ เราไม่ปกป้องนักเตะ นั่นแหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงเป็นหายนะ

นอกจากนี้ทางด้าน คล็อปป์ ยังได้พูดถึงเรื่องนี้อีกโยงไปถึง FA ของอังกฤษอีกว่า “FA ควรจะเข้ามามีส่วนร่วมในการพูดคุยกับทางพรีเมียร์ลีกด้วย คืนนี้เราเสียเทรนต์ไป และผมมั่นใจว่าเซาธ์เกตเองก็คงไม่โอเค ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไป ผมก็หวังว่าเราจะได้เล่นยูโรในซัมเมอร์หน้า แต่ก็คงต้องรอดูว่าใครที่จะสามารถเข้าร่วมแข่งขันได้บ้าง

สำหรับการแข่งขันพรีเมียร์ลีกนั้นบริหารการจัดการแข่งขันโดยบริษัทพรีเมียร์และมีสมาคมฟุตบอลอังกฤษเป็นผู้ควบคุมดูแลอีกทีคล้ายๆกับไทยลีกที่มีองค์กรเอกชนจัดการแข่งขันและมีสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคุมอยู่อีกทีนั้นแหละครับ

ทีนี้คงต้องมาดูว่า ทั้งพรีเมียร์และ FA อังกฤษ จะมองเรื่องนี้ยังไง เพราะนี่ก็ใกล้ทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ระดับชาติเข้าไปทุกทีแล้ว ในขณะที่  FA ของชาติอื่นถนอมนักเตะกันเพื่อให้ยืนระยะในอาชีพฟุตบอลได้นานขึ้นแต่ที่อังกฤษไม่ได้มองแบบนั้นทั้งโปรแกรมที่ถี่ยิบและยืนยันจะยังคงไม่มีเบรคหนีหนาวเหมือนลีกอื่น

สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ อังกฤษค่อนข้างมีอีโก้สูง คนอื่นปรับเปลี่ยนยังไงก็ช่าง แต่ฉันขอทำของฉันแบบนี้!!!!