เฮดของเฮดโค้ช! วัฒนธรรมบอลไทยไม่เหมือนใครในโลก
ถ้าพูดถึง “ไทยลีก” ต้องบอกเลยว่าเป็นลีกที่มีวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใครในโลก จริงๆ มีธรรมเนียมปฏิบัติมากมายแหละที่ไม่เหมือนใคร เช่น เรื่องตัวเลขของสัญญาซื้อขาย เรื่องค่าเหนื่อย รายละเอียดต่างๆ ของสัญญาเหล่านี้ เป็นเรื่องต้องห้ามที่จะนำออกมาพูดถึงกัน ด้วยความที่ทางสโมสรไม่อยากเปิดเผยด้วยแหละ เข้าใจว่า บางทีมันมีผลต่อจิตใจนักเตะในทีม ใครได้เงินเดือนมาก เงินเดือนน้อย ยังเป็นเรื่องเซนซิทีฟในฟุตบอลไทยอยู่
นอกจากเรื่องตัวเลข สิ่งที่เห็นชัดเจนอีกเรื่องคือ การที่เจ้าของทีมหรือประธานสโมสร ลงมานั่งอยู่ที่ซุ้มม้านั่งสำรองข้างสนามนี่แหละครับ เราจะเห็นอยู่บ่อยๆ อย่างเมืองทอง ก็จะมีคุณระวิ โหลทอง มานั่งพร้อมเครื่องรางของขลังเต็มคอ หลังๆ คุณระวิไม่ว่างมาชมเกมในสนาม เราก็จะเห็น คุณวิลักษณ์ โหลทอง ลูกชายของคุณระวิ มานั่งชมเกมข้างสนาม
ไม่ใช่แค่เมืองทอง ยังมีทีมอย่างราชบุรี ก็จะมีรองประธานสโมสร คุณฟลุ๊ค–ธนวัชร์ นิติกาญจนา มานั่งชมเกมข้างสนามด้วย หรืออย่าง ท่าเรือ ก็มีคุณแป้ง เชียงรายก็มีคุณฮั่น– มิตติติยะไพรัชและแน่นอนบุรีรัมย์ก็มีคุณเนวินลงมานั่งให้กำลังใจลูกทีมข้างสนามทุกนัดที่แข่งขัน
จริงๆ หลายคนมองว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าแค่นั่งดู แต่เราก็เห็นในหลายๆ นัด ที่ท่านประธานมักจะอินกับเกมไปหน่อย ลุกไปตะโกนสั่งการนักเตะที่ริมเส้นข้างสนาม บางทีโค้ชแท้ๆ ที่คุมทีมซ้อมยังตกใจ พูดไม่ออก ได้แต่ตามน้ำเออออกันไป
ถามว่าผิดไหม ไม่ผิดแน่นอนครับ แต่ถามว่า “ควรไหม” อันนี้แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนนะ เขาเป็นเจ้าของเงิน เขาชอบฟุตบอล แน่นอนว่าเขาก็อยากเสนอความคิดเห็นอยากช่วยโค้ชเท่าที่จะช่วยได้ ทีนี้มันอยู่ที่รายละเอียดในการคุยตอนชวนโค้ชมาคุมทีมนั้นแหละว่า ถ้ามีแบบนี้โค้ชรับได้ไหม อย่างบุรีรัมย์ที่เราเห็นจนชินตา ซึ่งคุณเนวิน ท่านก็ยอมรับแบบแมนๆ ว่าตัวเองคือ “เฮดของเฮดโค้ช” แต่ใครจะกล้าต่อต้าน เพราะในหลายๆ ปีที่ผ่านมา บุรีรัมย์ก็ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าทีมจะจมดิ่งลงเหวเสียเมื่อไรล่ะ
มองว่า ถ้าทีมไหนอยากจะมี “เฮดของเฮดโค้ช” จริงๆมันอยู่ที่การพูดคุยกับโค้ชถ้าอยากช่วยวางแผนช่วยจัดตัวน่าจะไปทำในมุมที่ไม่มีคนนอกเห็นดีกว่าเพราะว่าสุดท้ายก็ควรให้เกียรติโค้ชจริงๆมากกว่าที่จะมายืนสั่งการลูกทีมข้างสนามแทนโค้ชมันดูไม่มืออาชีพเท่าไรนั่นเองนะครับ
ก็ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง ทีมฟุตบอลอาชีพในไทยลีกจะก้ามข้ามวัฒนธรรม “เฮดของเฮดโค้ช” ไปได้ เพื่อสร้างให้มาตรฐานลีกมันดูมีความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ แล้วยอมรับได้แล้วว่า หน้าที่เป็นของใคร การขัดตัวเป็นของใคร ความรับผิดชอบเป็นของใคร ไม่มีใครไม่รักงานของตัวเอง ไม่มีใครอยากให้คนอื่นมาแทรกแซงงานที่ตัวเองดูแลอยู่แน่นอนครับ